เว็บไซต์ที่ดี สิ่งหนึ่งเลยต้องเป็นเว็บไซต์ที่มีความปลอดภัย เพราะในปัจจุบันมิจฉาชีพหรือแฮคเกอร์นั้นมีอยู่มากมาย และอินเทอร์เน็ตก็มักจะมีช่องโหว่งอยู่เสมอ ดังนั้นเราควรเพิ่มความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ และต้องคอยมอนิเตอร์เว็บไซต์เสมอ วันนี้ Pixel Pine จะมาแนะนำวิธีวิธีเช็กความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ เพื่อไม่ให้แฮกเกอร์หรือมัลแวร์เข้าถึงนั่นเอง…
ทำไมต้องเช็กความปลอดภัยเว็บไซต์

การตรวจสอบความปลอดภัยของเว็บไซต์นั้นมีความสำคัญ เพราะเว็บไซต์จะมีข้อมูลสำคัญเก็บไว้มากมาย เหตุผลที่ต้องเช็กความปลอดภัยเว็บไซต์ มีดังนี้
- ปกป้องข้อมูลของผู้ใช้งาน
ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เป็นส่วนตัวและสำคัญของผู้ใช้งาน ดังนั้นเว็บไซต์จำเป็นต้องตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลเหล่านี้รั่วไหล หรือถูกขโมยไปได้ - ป้องกันการถูกโจมตีทางไซเบอร์
การโจมตีทางไซเบอร์ จะโดนได้อย่างง่ายดาย ถ้าเว็บไซต์ไม่มีความปลอดภัย ทั้งในเรื่องของการโจมตีแบบ DDoS ดังนั้น เว็บไซต์จึงจำเป็นต้องมีความปลอดภัยเพื่อป้องกันการผู้โจมตีในลักษณะนี้ด้วย - เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งาน
เว็บไซต์ จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งานได้ก็ต่อเมื่อเข้ามาใช้เว็บไซต์แล้วรู้สึกปลอดภัยจากไวรัส หรือป้องกันการถูกขโมยข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่ดี - ป้องการสูญเสียข้อมูล
การตรวจสอบความปลอดภัยจะช่วยให้สามารถจัดการสำรองข้อมูลหรือแก้ไขเว็บไซต์ได้ทันที หากเกิดเหตุการณ์โดนโจมตีจนไม่สามารถเข้าเว็บไซต์ได้ สามารถกู้คืนเว็บไซต์กลับมาได้ทันที - เสริมสร้างภาพลักษณ์ของเว็บไซต์
การมีเว็บไซต์ที่ปลอดภัย จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับเว็บไซต์ ทั้งความเป็นมืออาชีพและความใส่ใจในด้านความปลอดภัย
วิธีเช็กความปลอดภัยเว็บไซต์

ตรวจสอบ SSL/TLS Certificate
SSL/TLS Certificate คือการเข้ารหัสข้อมูล ที่ส่งระหว่างเว็บไซต์และผู้ใช้งาน ป้องกันการดักจับข้อมูล ขั้นตอนที่ง่ายที่สุดสำหรับการสร้างเว็บไซต์ คือการใช้ HTTPS เพราะเป็นโปรโตคอลที่อัปเดตที่สุดในปัจจุบัน สามารถป้องกันการดับจับข้อมูลระหว่างทาง และข้อมูลที่ถูกนำส่งออกไปนั้น จะเป็นข้อมูลที่ถูกดัดแปลงและไม่สามารถอ่านค่าได้ และในการพัฒนาเว็บไซต์ตอนนี้ ไม่มีเว็บไซต์ไหน ที่ไม่ใช้ HTTPS
มีการสำรองข้อมูล (Data Backup)
ตรวจสอบว่าเว็บไซต์มีการสำรองข้อมูลอยู่เสมอ ซึ่งอาจใช้ได้ในหลายกรณี ไม่เพียงแต่เว็บไซต์ถูกโจมตีจนข้อมูลเสียหาย อาจเป็นจากความผิดพลาดของระบบ การอัปเดตเว็บไซต์ที่ผิดพลาด ซึ่งถ้ามีการสำรองข้อมูลไว้ก่อน เวลาที่เว็บไซต์มีปัญหาก็สามารถดึงเวอร์ชันก่อนหน้ามาใช้งานก่อนได้
อัปเดตปลั๊กอินหรือสคริปท์เสมอ
ตรวจสอบว่าซอฟต์แวร์และปลั๊กอินที่ใช้บนเว็บไซต์ ใช้เป็นเวอร์ชันปัจจุบันแล้วหรือยัง เพราะในเวอร์ชันเก่า อาจะมีช่องโหว่ที่ผู้พัฒนาปลั๊กอินยังไม่ได้อัปเดตหรือแก้ไข ยิ่งถ้าทิ้งไว้นานๆ ไม่ได้อัปเดตบ่อยๆ จะส่งผลเสียหายให้กับเว็ปไซต์ได้ นอกจากจะเป็นการอัปเดตให้ซอฟต์แวร์และปลั๊กอินของเรานั้น เป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้วยังป้องกันให้เว็บไซต์คุณปลอดภัยได้ด้วย
ใช้ Hosting ที่มีความปลอดภัย เชื่อถือได้
อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปลอดภัย คือการเลือกใช้ Hosting ที่มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ เพราะ Hosting จะเป็นแหล่งในการเก็บรักษาข้อมูลของเว็บไซต์ ยิ่งถ้าเลือกเจ้าที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ก็จะมีระบบรักษาความลอดภัยที่ช่วยให้ข้อมูลของคุณ ไม่ถูกแฮกเข้ามาได้อย่างแน่นอน
หากเว็บไซต์ของคุณถูกโจมตีหรือเกิดปัญหาด้านความปลอดภัย สิ่งที่ควรทำเป็นสิ่งแรกคือตรวจสอบก่อนว่าเกิดปัญหาจากอะไร และรีบแจ้งผู้เกี่ยวข้องให้แก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาก็จะแบ่งเป็น Case by case แต่ถ้าเราตอบสนองอย่างรวดเร็ว จะช่วยลดความเสียหายและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ แต่ถ้าอยากลองแก้ไขเบื้องต้นด้วยตัวเอง สามารถอ่านวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ที่นี่ โดนแฮกเว็บไซต์ แก้ไขได้อย่างไรบ้าง?