Landing Page กับ Sale Page แตกต่างกันอย่างไร?

อีกหนึ่งวิธีการตลาดออนไลน์ที่นักการตลาดออนไลน์นิยมนำมาใช้เก็บ Lead ก็คือการทำ Landing Page หรือ Sale Page ซึ่งก็ยังเป็นปัญหาคาใจสำหรับนักการตลาดรุ่นใหม่ๆ ที่ยังคงสงสัยว่า Lading Page กับ Sale Page มีความต่างกันอย่างไร ในเมื่อมันก็คือ 1 Page ที่เอามาใช้ในการเก็บ Lead เช่นกัน วันนี้ Pixel Pine จะพาทุกคนไปไขข้อข้องใจเรื่องนี้กัน
(SCROLL)
Landing Page

อีกหนึ่งวิธีการตลาดออนไลน์ที่นักการตลาดออนไลน์นิยมนำมาใช้เก็บ Lead ก็คือการทำ Landing Page หรือ Sale Page ซึ่งก็ยังเป็นปัญหาคาใจสำหรับนักการตลาดรุ่นใหม่ๆ ที่ยังคงสงสัยว่า Landing Page กับ Sale Page มีความต่างกันอย่างไร ในเมื่อมันก็คือ 1 Page ที่เอามาใช้ในการเก็บ Lead เช่นกัน วันนี้ Pixel Pine จะพาทุกคนไปไขข้อข้องใจเรื่องนี้กัน

Landing Page คืออะไร

Landing Page คือ 1 เพจเว็บไซต์ ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง เช่น ทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูล, บริการต่างๆ, โปรโมทสินค้าใหม่ หรือสร้างขึ้นเพื่อต้องการทำ CRM ซึ่งหน้า Landing Page ส่วนใหญ่ จะถูกนำไปใช้เพื่อการทำการตลาดในหลายช่องทาง ยกตัวอย่างเช่น Facebook, IG หรือแม้แต่การยิงโฆษณา เพื่อนำทางคนเข้ามายังหน้า Landing Page ของเว็บไซต์ได้อีกด้วย

การทำ Landing Page 1 หน้า นอกจากจะทำขึ้นมาเพื่อนำเสนอข้อมูล หรือโปรโมทสินค้าและบริการต่างๆ แล้วยังมีข้อดีอื่นๆ อีกด้วย ดังนี้

  1. ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์
    การจะทำ Landing Page 1 หน้า ก่อนจะดีไซน์หรือคิดว่าจะสร้าง Landing Page ออกมาเป็นรูปแบบไหน ต้องผ่านกระบวนการคิดและออกแบบมาแล้วเป็นอย่างดี ดังนั้น Landing Page จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ สินค้า หรือบริการ และนำเสนอสิ่งที่ผู้ชมต้องการและมีความน่าเชื่อมากขึ้นได้ด้วย
  2. เก็บข้อมูลมาทำการตลาด
    ใน Landing Page ส่วนใหญ่ นอกจากจะเป็นหน้าเพจเว็บไซต์ที่ไว้แสดงข้อมูลแล้วยังมีการทำ CRM หรือแนบฟอร์ม เพื่อให้กลุ่ม Target ที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการกรอกข้อมูลเข้ามาเพื่อแลกรับอะไรบางอย่าง หรือกรอกข้อมูลเพื่อให้ทีมการตลาดติดต่อกลับไป นั่นก็สามารถนำข้อมูลที่ได้เหล่านั้นมาเป็นข้อมูลเพื่อทำการตลาดต่อไปในอนาคตได้
  3. เพิ่มยอดเข้าชมเว็บไซต์
    ช่วยเพิ่มยอดในการเข้าชมเว็บไซต์  ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น สามารถเพิ่ม CTA แทรกเข้าไปใน Landing Page เพื่อกระตุ้นให้ผู้ชมคลิกต่อไปยังเว็บไซต์ หรือคลิกต่อเพื่อเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ได้

ตัวอย่าง Landing Page

เว็บไซต์ Sinae เป็นเว็บที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนซื้อบ้านพูลวิลล่า วิวทะเลที่จะได้บ้านพักที่สวยหรูตามสไตล์ของผู้พักอาศัย ซึ่งบน Landing Page ก็จะมีทั้งข้อมูลของตัวโปรเจคต์ที่พร้อมจะให้ร่วมลงทุน ภาพ Mockup วิวที่พัก วิดีโอที่เชิญชวน รวมถึง Plan ของพูลวิลล่า และยังมีฟอร์มให้ผู้ที่สนใจกรอกข้อมูล เพื่อให้ Sale ติดต่อกลับไป

Sale Page คืออะไร

Sale Page คือ หน้าเว็บเพจ ที่สร้างมาสำหรับการขายสินค้าโดยเฉพาะ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้นักการตลาดหรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์นิยมใช้ เพราะสามารถปิดการขายได้ครบ จบ ใน 1 หน้า เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการความรวดเร็ว อยากรู้อะไรก็สามารถรู้ได้ทันที และสามารถซื้อขายได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ซึ่งข้อดีของ Sale Page ก็มีดังนี้

  1. นำเสนอข้อมูลได้ครบถ้วนในหน้าเดียว
    นำเสนอข้อมูลของสินค้าที่ต้องการขายได้ ตั้งแต่ชื่อสินค้า, รูปสินค้า, รายละเอียด, ราคา, ช่องทางการชำระเงินและจัดส่ง รวมถึงรีวิวต่างๆ ก็สามารถแสดงได้ครบในหน้าเดียว
  2. กระตุ้นการขายสินค้า
    เมื่อลูกค้าศึกษารายละเอียดของสินค้า รวมถึงรีวิวที่แสดงบนหน้า Sale Page ก็จะยิ่งกระตุ้นการขายสินค้าได้มากขึ้น และลูกค้าก็สามารถซื้อสินค้าได้เพียงแค่กดปุ่มซื้อจากหน้า Sale Page เลย
  3. ปิดการขายได้รวดเร็ว
    เมื่อข้อมูล, รายละเอียด และปุ่มกดซื้อสินค้า มีให้ครบ และสามารถกระตุ้นการขายได้ดีแล้ว จะช่วยปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว สะดวกทั้งผู้ชมที่เข้ามายังหน้า Sale Page และสะดวกกับนักการตลาดในการขายของอีกด้วย

ตัวอย่าง Sale Page

Sale Page ที่มีการนำเสนอสินค้าได้ครบ จบใน 1 หน้า บอกเล่ารายละเอียดของสินค้าแต่ละตัวผ่านรูปภาพและวิดีโอ แถมยังมีปุ่มให้กดซื้อสินค้า หรือสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้ แค่เพียงหน้าเดียวก็สามารถปิดการขายได้ทันที

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายๆ ท่านคงพอจับได้หลายว่า Landing Page และ Sale Page แตกต่างกันอย่างไร ซึ่งเราจะมาสรุปให้อีกรอบ

Landing Page และ Sale Page แตกต่างกันอย่างไร

ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดเลยคือ Landing Page จะเน้นเสนอเนื้อหาหรือคอนเทนต์ที่ต้องการบอกเล่า และให้ความรู้กับผู้ที่มาพบเจอ และกระตุ้นให้ผู้ชมเหล่านั้น สามารถไปต่อกับแบรนด์ของคุณได้ เช่น กรอกฟอร์มเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม, อ่านรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมต่อในเว็บไซต์ เป็นต้น แถมยังช่วยให้ผู้ชมที่เข้ามาได้รู้จักแบรนด์เพิ่มเติมด้วย

ตัดภาพมาที่ Sale Page จะเน้นการขายสินค้าให้จบภายในหน้าเดียวมากกว่า สามารถดูรายละเอียดสินค้า และสั่งซื้อได้ทันที โดยที่ไม่ต้องย้อนกลับไปนั่งหาบนเว็บไซต์อีก แม้จะเป็นเว็บเพจ 1 หน้าเหมือนกัน แต่วัตถุประสงค์ในการใช้งานแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ดังนั้น ก่อนจะเริ่มทำ Landing Page หรือ Sale Page อาจจะต้องมานั่งหาข้อมูลและสรุปอีกทีว่า สิ่งที่ต้องการนั้นคืออะไร ทำไปทำไม และผลลัพธ์ที่ต้องการนั้นเป็นแบบไหน เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถเลือกวิธีในการทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ 1 หน้าได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมแล้วค่ะ

แต่ถ้าหากสนใจ อยากให้พวกเรา Pixel Pine ดูแล สามารถทักเพื่อปรึกษา และขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ QR Code ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

Related posts

want to see
our Other articles?

PDPA Icon

This website uses cookies to ensure you get the best experience on our website.

Privacy Preferences

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save